5 เทคนิคการเลือกปั๊มน้ำอัตโนมัติที่คน 99 % ไม่เคยรู้ แม้แต่ช่างมืออาชีพแนะนำให้อ่าน
หมดปัญหาเรื่องน้ำด้วยการเลือกปั๊มน้ำอัตโนมัติที่ใช่แบบมืออาชีพ
ปั๊มน้ำเป็นอุปกรณ์ที่สำคัญในบ้านที่มุ่งเพื่อการจ่ายน้ำไปยังต่าง ๆ ในบ้าน การเลือกปั๊มน้ำที่เหมาะสมสำหรับบ้านของคุณเป็นสิ่งสำคัญ เพื่อให้การจ่ายน้ำเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ
ในบทความนี้ TPE ขอแนะวิธีการเลือกปั๊มน้ำที่เหมาะกับบ้านของคุณ โดยใช้เทคนิคและข้อคิดบางประการ ซึ่งจะช่วยให้คุณตัดสินใจในการเลือกปั๊มน้ำอัตโนมัติที่ตอบโจทย์ความต้องการ และเงื่อนไขของครอบครัว และบ้านของคุณอย่างมีประสิทธิภาพที่สุด
5 เทคนิคในการเลือกปั๊มน้ำอัตโนมัติให้คุ้มค่าและเหมาะสมแบบมืออาชีพ
1.ประเภทของปั๊มน้ำอัตโนมัติ มีด้วยกัน 2 ประเภท ดังนี้
1.1 ปั๊มน้ำอัตโนมัติชนิดถังแรงดัน ปั๊มน้ำอัตโนมัติประเภทนี้จะทำงานโดยให้น้ำไปแทนที่อากาศในถังแรงดัน เพื่อให้มีแรงดันน้ำออกไปยังจุดต่าง ๆ ปั๊มชนิดนี้จะให้แรงดันน้ำที่สูง มีความทนทาน ราคาถูก บำรุงรักษาและหาอะไหล่ได้ง่าย แต่ความเสถียรของแรงดันน้ำไม่สม่ำเสมอ เพราะมอเตอร์จะหยุดทำงาน เมื่อสูบน้ำเข้าปั๊มน้ำจนทำให้มีปริมาณแรงดันที่มากพอ และจะเริ่มทำงานอีกครั้งเมื่อแรงดันลดลงจนถึงจุดที่กำหนดไว้ จึงทำให้การความแรงในการไหลของน้ำแต่ละจุดไม่เท่ากัน
1.2 ปั๊มน้ำอัตโนมัติชนิดแรงดันคงที่ ปั๊มน้ำอัตโนมัติชนิดแรงดันคงที่ มีความสามารถในการควบคุมแรงดันของน้ำที่ออกมาอย่างแม่นยำ ไม่ว่าคุณจะเปิด-ปิดทางน้ำที่ใช้ในบ้านหรือสถานที่อื่น ๆ ในระบบน้ำ แรงดันน้ำที่จ่ายออก จะคงที่ตามที่ได้ตั้งค่าไว้ ทำให้ระบบน้ำ ทำงานอย่างมีประสิทธิภาพและมั่นคง เช่น การใช้น้ำในการอาบน้ำหรือการใช้น้ำในห้องครัว แรงดันน้ำที่จ่ายออกจะไม่เปลี่ยนแปลงแม้จะมีการเปิด-ปิดน้ำในที่ต่าง ๆ ในบ้าน
ปั๊มน้ำอัตโนมัติชนิดแรงดันคงที่ มักมีการควบคุมด้วยคอนโทรลเลอร์ ที่ตรวจจับแรงดันของน้ำ และปรับความเร็วของปั๊มน้ำ ตามความเปลี่ยนแปลงของแรงดันน้ำในระบบ ช่วยให้ระบบน้ำทำงานอย่างต่อเนื่องโดยไม่ต้องตั้งค่าแรงดัน ทำให้ปั๊มน้ำอัตโนมัติชนิดแรงดันคงที่ เป็นตัวเลือกสำหรับบ้าน ที่มีความต้องการในการคงที่แรงดันน้ำในการใช้งาน
2.กำลังวัตต์ปั๊มน้ำ ในการเลือกใช้ปั๊มน้ำอัตโนมัติ ไม่สามารถเลือกขนาดกำลังวัตต์มาก เพื่อที่จะได้น้ำที่แรงมากได้เสมอไป เพราะหากเลือกขนาดกำลังวัตต์มากเกินความจำเป็น จะทำให้สิ้นเปลืองค่าใช้จ่ายโดยไม่จำเป็น และยังอาจทำให้ท่อน้ำแตก รั่ว หรือชำรุดเสียหายได้เพราะแรงดันน้ำมากเกินไป ดังนั้น การเลือกขนาดวัตต์ของปั๊มน้ำอัตโนมัติต้องเลือกใช้ให้เหมาะสมกับปริมาณการใช้งาน จึงจะมีประสิทธิภาพสูงสุด ซึ่งในการเลือกขนาดกำลังวัตต์มี 2 ปัจจัย ที่เป็นตัวกำหนดดังต่อไปนี้
2.1 ปริมาณการใช้น้ำต่อวัน ปริมาณในการใช้น้ำของแต่ละบ้าน หรือแต่ละอาคารย่อมมีจำนวนไม่เท่ากัน จึงส่งผลให้การเลือกขนาดกำลังวัตต์ของปั๊มน้ำมีความแตกต่างกัน โดยการคิดปริมาณน้ำที่ใช้ต่อวันสามารถคิดคร่าว ๆ ได้จาก ปริมาณจุดที่มีการใช้น้ำ เช่น จำนวนก๊อกน้ำ, จำนวนเครื่องทำน้ำอุ่น, หรือเครื่องซักผ้า ซึ่งในบ้านหรืออาคารมีทั้งหมดกี่จุด และจุดที่มีการใช้น้ำพร้อมกันมีจำนวนเท่าไร เนื่องจากยิ่งมีจำนวนจุดที่ใช้น้ำพร้อมกันมากเท่าไร ยิ่งต้องใช้ขนาดกำลังวัตต์ที่สูง เพื่อให้น้ำกระจายไปอย่างทั่วถึง ในปริมาณน้ำที่เหมาะสมสำหรับใช้งาน โดยสามารถดูค่าขนาดกำลังวัตต์ที่เหมาะสม สำหรับจำนวนจุดที่ใช้น้ำพร้อมกัน ได้ตามข้อมูลดังนี้
- ปั๊มน้ำอัตโนมัติ ขนาด 180 วัตต์ สำหรับการใช้น้ำพร้อมกัน 3 จุด
- ปั๊มน้ำอัตโนมัติ ขนาด 370 วัตต์ สำหรับการใช้น้ำพร้อมกันได้ 5 จุด
- ปั๊มน้ำอัตโนมัติ ขนาด 750 วัตต์ สำหรับการใช้น้ำพร้อมกันได้ 8 จุด
2.2 ความสูงของบ้านหรืออาคาร ยิ่งบ้านหรืออาคารมีความสูงมากเท่าไร การส่งน้ำต้องสูงตามไปด้วย หากแรงดันน้อยเกินไปจะทำให้ชั้นที่อยู่สูง ๆ น้ำไม่ไหลหรือน้ำไหลเบา ซึ่งความสูงของบ้าน หรืออาคารมีผลต่อการเลือกกำลังวัตต์ของปั๊มน้ำเช่นกัน
- ปั๊มน้ำอัตโนมัติ ขนาด 180 วัตต์ สำหรับความสูง 1-2 ชั้น
- ปั๊มน้ำอัตโนมัติ ขนาด 370 วัตต์ สำหรับความสูง 1-3 ชั้น
- ปั๊มน้ำอัตโนมัติ ขนาด 750 วัตต์ สำหรับความสูง 1-3 ชั้น
ดังนั้นหากบ้าน 2 ชั้น ใช้น้ำพร้อมกัน 5 จุด สามารถใช้ปั๊มขนาด370 วัตต์ได้
3.วัสดุที่ใช้ในการผลิตปั๊ม ปั๊มน้ำอัตโนมัติเป็นอุปกรณ์ที่มักถูกติดตั้งไว้ด้านนอกของอาคาร วัสดุที่ผลิตต้องทนทานกับอากาศ สภาพแวดล้อมได้ เพราะหากผลิตจากวัสดุที่ไม่ทนทาน หรือไม่มีคุณภาพจะทำให้เกิดการรั่วซึม เป็นสนิม และเสื่อมสภาพได้ ซึ่งวัสดุที่มีคุณภาพ และนิยมนำมาผลิตปั๊มน้ำอัตโนมัติมีด้วยกัน 3 ชนิด
3.1 สแตนเลส มักนำมาใช้ผลิตถังแรงดันของ ปั๊มน้ำอัตโนมัติชนิดถังแรงดัน เพราะวัสดุไม่เป็นสนิมทนทานต่อสภานแวดล้อม และในปัจจุบันได้มีการพัฒนาให้ถังแรงดันไม่มีรอยเชื่อม ทำให้มีความทนทานต่อการเกิดสนิมมากยิ่งขึ้น
3.2 อลูมิเนียม เป็นวัสดุที่นำมาผลิตตัวปั๊มและ เรือนมอเตอร์ ซึ่งมีความแข็งแรงและทนทานเป็นอย่างมาก และที่สำคัญเป็นวัสดุที่ระบายความร้อนได้ดีจึงไม่ทำให้มอเตอร์เกิดความร้อนได้ง่าย ๆ
3.3 พลาสติกคุณภาพสูง พลาสติกชนิดนี้จะมีความเหนียว และทนทาน สามารถทนต่ออากาศร้อนชื้นอย่างเมืองไทยได้ดี โดยเป็นชิ้นส่วนที่ใช้ประกอบในปั๊มน้ำอัตโนมัติได้ เช่น ฐานรองถังโลหะ ฝาครอบปั๊ม หรือฝาครอบมอเตอร์ ในปั๊มน้ำอัตโนมัติ เป็นต้น
4.มาตรฐานความปลอดภัย ควรเลือกซื้อปั๊มน้ำอัตโนมัติที่ได้รับมาตรฐานการรับรองจากหน่วยงานที่น่าเชื่อถือ เช่น มาตรฐาน ISO9001- มาตรฐานการจัดการคุณภาพโรงงาน ISO14001- มาตรฐานด้านระบบบริหารสุขภาพและความปลอดภัย และ RoHS ค่ามาตรฐานด้านสิ่งแวดล้อม ซึ่งทั้งหมดเป็นมาตรฐานที่การันตีคุณภาพของปั๊มน้ำอัตโนมัติ และความปลอดภัยที่จะได้รับ
5.การรับประกันและบริการหลังการขาย การรับประกันสินค้าควรเลือกบริษัท หรือร้านค้าที่มีระยะเวลาในการรับประกัน โดยเน้นการรับประกันที่มอเตอร์เพราะมอเตอร์เป็นส่วนที่สำคัญของปั๊มน้ำอัตโนมัติ และควรเลือกบริษัท หรือร้านค้า ที่มีบริการหลังการขาย เพราะหากปั๊มน้ำของท่านมีปัญหา จะสามารถติดต่อกับทางบริษัทที่ซื้อได้
การเลือกปั๊มน้ำไม่ได้มีเพียงแค่เรื่องขนาดหรือความจุของปั๊มน้ำเท่านั้น แต่ยังคำนึงถึงปัจจัยอื่น ๆ เช่น ประสิทธิภาพพลังงาน, ระบบสายท่อ, ความทนทานต่อสภาพแวดล้อมและราคา การทราบข้อมูลเหล่านี้จะช่วยให้คุณเลือกปั๊มน้ำอัตโนมัติที่สอดคล้องกับความต้องการและงบประมาณของคุณอย่างถูกต้อง
หากท่านต้องการผู้เชี่ยวชาญในการช่วยเลือกปั๊มน้ำอัตโนมัติอย่างมืออาชีพ บริษัท ไทยพินนะเคิ้ล เอ็นจิเนียริ่ง จำกัด พร้อมให้คำแนะนำจากช่างผู้เชี่ยวชาญที่ช่วยให้การเลือกปั๊มน้ำอัตโนมัติเป็นเรื่องที่ง่ายขึ้น
สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่